0
แหล่งช้อปปิ้งของแบรนด์เนมในประเทศมาเลเซีย 

      สำหรับแหล่งช้อปปิ้งแบรนด์เนมส่วนใหญ่นั้นจะอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าซึ่งในครั้งนี้เราจะมาแนะนำห้างสรรพสินค้าที่มีอยู่ในประเทศมาเลเซียและเป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่

      สำหรับที่แรกนั้นก็คือ ซูเรีย เคแอล ซีซี   ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งช้อปปิ้งของแบรนด์เนมหรูหรามากมายไม่ว่าจะเป็น Lancome หรือมาร์คแอนด์สเปนเซอร์  รวมถึง หลุยวิคตอง และ Laneige เป็นต้น  ซึ่งที่นี่นับว่าเป็นห้างดังและเป็นห้างใหญ่ของกรุงกัวลาลัมเปอร์เลยก็ว่าได้และห้างแห่งนี้นั้นยังอยู่ด้านล่างของตึกแฝดปิโตรนาสดังนั้นหากนักท่องเที่ยวคนไหนเดินทางมาเที่ยวที่ตึกแฝดปิโตรนาสเราเราก็สามารถแวะช้อปปิ้งที่แห่งนี้ได้เลย

         สำหรับแหล่งช้อปปิ้งแหล่งที่ 2 นั้นก็คือ pavilion กัวลาลัมเปอร์  ซึ่งแห่งนี้นับได้ว่าเป็นห้างที่มีความหรูหราและมีการนำสินค้าแบรนด์เนมเข้ามาขายเป็นจำนวนมากโดยสินค้าดำเนินส่วนใหญ่ที่ถูกนำมาขายนั้นจะเป็นสินค้าสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็นพวกเสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋าหรือแม้แค่เครื่องสำอางก็ตาม

            ซึ่งมาที่นี่นั้นรับรองได้เลยว่าจะมีของให้คุณได้ช้อปปิ้งเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดที่สำคัญหากใครอยากจะมาเสริมสวยก็มีโซนสำหรับให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเสริมสวยและยังมีร้านอาหารอร่อยๆอีกมากมายอีกด้วย 

       นอกจากนี้ห่างออกไปจากกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์นั้นยังมีห้างขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า มิด วัลเลย์ เมก้ามอล  ซึ่งทางนี้บอกได้เลยว่าเป็น 5 ที่มีชื่อเสียงดังมากและเป็นห้างที่ใหญ่อันดับต้นๆของประเทศเลยก็ว่าได้และสินค้าที่มาขายที่ห้างแห่งนี้นั้นจะมีมากมายหลายประเภทและมากมายหลายราคาซึ่งสินค้าที่ขายห้างนี้นั้นไม่ว่าจะเป็นเพศหญิงเพศชายเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถมาหาซื้อได้ที่นี่และราคาก็ไม่ได้สูงมากนักที่สำคัญถ้าหากไปช้อปปิ้งกันเหนื่อยแล้วก็มีเก้าอี้ให้พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย

         และอีกหนึ่งแหล่งช้อปปิ้งที่น่าสนใจก็คืออุตตมะช้อปปิ้งเซ็นทรัล  ปีนี้เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ช้อปปิ้งที่น่าสนใจเป็นอย่างมากทีเดียวด้วยความใหญ่โตของห้างสรรพสินค้าที่มีการตกแต่งไว้อย่างร่มรื่นเหมือนกับว่าเรากำลังมาช้อปปิ้งอยู่กลางป่าเลยก็ว่าได้

         และเป็นค่าที่ถูกนำมาวางขายเป็นสินค้าช้อปปิ้งของห้างแห่งนี้คงหนีไม่พ้นพวกสินค้าแบรนด์เนมดังๆนั่นเองและที่สำคัญที่สุดที่นี่มีศูนย์อาหารที่ใหญ่ที่สุดในกรุงกัวลาลัมเปอร์เลยก็ว่าได้ที่สำคัญรสชาติอาหารนั้นอร่อยมากๆหากนักท่องเที่ยวคนไหนได้เดินทางไปเที่ยวเราต้องลองอาหารจากที่นี่รับรองติดใจ อย่างแน่นอน 

 

สนับสนุนโดย.    3 ตัว บาทละ 1000

0
Westfield London mall ห้างที่ใหญ่ที่สุดในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ 

           สำหรับขาช้อปทั้งหลายแล้วเชื่อว่าถ้าหากได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆสิ่งที่พลาดไม่ได้ก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศของตนเองได้ก็คือการช้อปปิ้งนั่นเองซึ่งในครั้งนี้เราจะแนะนำสถานที่ช้อปปิ้งในประเทศอังกฤษซึ่งอยู่ในกรุงลอนดอนและเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในกรุงลอนดอนเลยก็ว่าได้นั่นก็คือ Westfield London mall  

         สำหรับห้างแห่งนี้อยู่ในย่านไวซ์ซิตีซึ่งทางแห่งนี้นั้นถือได้ว่าเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในกรุงลอนดอนและมีคนเป็นจำนวนมากที่พากันเดินทางมาช้อปปิ้งที่ห้างแห่งนี้ขนาดความใหญ่โตของห้างนั้นว่ากันว่าเทียบเท่ากับสนามฟุตบอล 30 สนามรวมกันเลยทีเดียว

ซึ่งเมื่อวัดขนาดพื้นที่ของห้างแห่งนี้แล้วมีขนาดพื้นที่กว้างถึง 150,000 ตารางเมตร  ดังนั้นต้องบอกเลยว่าต่อให้คุณเป็นนักช็อปชอบเก่งมากแค่ไหนคุณก็ไม่สามารถเดินทั่วทั้งห้างภายใน 2-3 วันได้อย่างแน่นอน    สำหรับ Westfield London mall  แห่งนี้เปิดให้บริการลูกค้าตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 เดือนตุลาคม ปี ค.ศ. 2008

          ภายในห้างแห่งนี้คุณจะสามารถช้อปปิ้งกับสินค้าแบรนด์เนมที่ถูกนำมาวางขายภายในห้างมากกว่า 255 ร้านด้วยกันซึ่งสินค้าแบรนด์เนมนั้นก็จะเป็นสินค้าแบรนด์เนมชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกยกตัวอย่างเช่นแบรนด์ Zara หรือแม้แต่แบรนด์ Mango หรือถ้าหากใครอยากจะซื้อสินค้าประเภทไอทีก็มีช็อปของทาง Apple เปิดให้บริการที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีร้านเสื้อผ้าและร้านของเล่นของสำหรับเด็กอีกมากมายซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถช้อปปิ้งของเล่นได้อย่างเพลิดเพลินไม่ว่าจะเป็นเลโก้หรือ Disney store เป็นต้นในขณะเดียวกันก็มีร้านเครื่องดื่มคอยให้บริการนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นสตาร์บัคหรือร้าน Coffee แบรนด์อื่นๆอีกมากมายเต็มไปหมด

         สำหรับการจัดการภายในห้างแห่งนี้นั้นจะมีการแบ่งออกเป็นโซนต่างๆซึ่งจะมีโซนสำหรับสินค้าแบรนด์เนมที่เป็นพวก hi-end และเป็นโซนเครื่องดื่มนอกจากนี้ยังเป็นโซนของเล่นรวมถึงโซนร้านอาหาร

ซึ่งอาหารที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้นั้นจะมีทั้งร้านอาหารอิตาเลี่ยนรวมถึงร้านอาหารที่ขายอาหารมังสวิรัติและร้านอาหารที่ขายอาหารนานาชาติและถ้าหากใครอยากกินอาหารไทยเมื่อคุณมาประเทศอังกฤษก็สามารถมาทานอาหารไทยได้ที่ห้างสรรพสินค้าWestfield London mall  แห่งนี้ได้เช่นเดียวกัน 

          อย่างไรก็ตามหากนักท่องเที่ยวคนไหนอยากจะ Shopping เสร็จแล้วจะดูหนังก็สามารถที่จะเข้าไปชมในโซนของที่เป็นโรงภาพยนตร์ได้โดยที่นี่สามารถบรรจุคนในการเข้าไปชมภาพยนตร์ได้ถึง 30 ที่นั่งในขณะเดีย

วกันภายในโรงภาพยนตร์นั้นก็จะมีจอเป็นแบบ 3 มิติคอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วยเรียกได้ว่ามาเที่ยวที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้คุณจะเพลิดเพลินกับสิ่งอำนวยความสะดวกเต็มรูปแบบและบริการอย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย.    agplus

0
แนะนำแหล่งช็อปปิ้งที่ประเทศอังกฤษ  Covent gargen market  

          สำหรับสถานที่ช็อปปิ้งที่จะพาไปรู้จักและอยากให้ลองไปเที่ยวกัน. แหล่งช็อปปิ้งที่ประเทศอังกฤษ ในครั้งนี้เป็นตลาดแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ  โดยตลาดแห่งนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า  Covent gargen market   แต่สำหรับคนอังกฤษแล้วต่างก็พากันเรียกตลาดแห่งนี้ว่า Apple market  นั่นเอง ที่ตลาดแห่งนี้ไม่ได้เป็นแค่เพียงแหล่งช้อปปิ้งอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังเป็นแหล่งที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินไปตามท้องถนน

เพื่อหาของกินเล่นและยังเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่นชิวๆพักผ่อนสบายๆ

ซึ่งตลาดแห่งนี้นั้นเป็นแหล่งเชื่อมต่อกับแหล่งท่องเที่ยวมากมายภายในกรุงลอนดอนและยังเชื่อมต่อไปยังแหล่งช้อปปิ้งและอื่นๆอีกด้วยสำหรับตลาดที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้อยู่ในย่าน West End  ของเมือง westminster   ว่ากันว่าตลาดแห่งนี้นั้นมีอายุเก่าแก่มากกว่า 300 ปีมาแล้วเป็นตลาดที่อยู่คู่กับเมือง  westminster มาอย่างยาวนาน

       สำหรับจุดเริ่มต้นของตลาดแห่งนี้ว่ากันว่าแต่เดิมนั้นตลาดแห่งนี้เป็นตลาดเล็กๆเพียงเท่านั้นและที่นี่มีการนำ Apple มาวางขายโดยคนแรกที่นำแอปเปิ้ลมาวางขายก็คือบาทหลวงท่านหนึ่งซึ่งเป็นบาทหลวงที่อาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้นั่นเองหลังจากนั้นผู้คนก็เริ่มเรียกตลาดแห่งนี้ว่าตลาด Apple

เมื่อได้รับความสนใจจากชาวเมืองตลาดแห่งนี้ก็ขยายเติบโตขึ้นเรื่อยๆจากการที่ขายแอปเปิ้ลเพียงอย่างเดียวผู้คนก็เริ่มนำผลไม้ชนิดอื่นมาวางขายหลังจากนั้นก็เริ่มนำเอาผักมาวางขายจนตลาดแห่งนี้ขยายและเติบโตขึ้นเรื่อยๆเป็นที่รู้จักมากขึ้นนั่นเอง

     ปัจจุบัน   Apple market เป็นตลาดที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเป็นตลาดที่ขึ้นชื่อเรื่องของการขายผลไม้สดและผักสดอย่างมากหลังจากที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศอังกฤษได้แวะมาเยี่ยมชมตลาดแห่งนี้และได้มีการซื้อผักและผลไม้กลับไปก็ทำให้ที่นี่ได้รับการบูรณะปรับปรุงต่อเติมกลายเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่โดยมีการสร้างกระจกครอบตลาดเอาไว้ 

        เพื่อที่นักท่องเที่ยวเวลาช้อปปิ้งจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลใจว่าฝนจะตกหรือแดดจะออกรวมถึงยังสร้างความสวยงามให้ตลาดแห่งนี้กลายเป็นจุดเช็คอินอีกแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยว

เมื่อเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศอังกฤษต้องแวะเวียนมาเช็คอินที่ตลาดแห่งนี้กันเลยทีเดียวเนื่องจากว่าตลาดแห่งนี้นั้นมีการออกแบบด้วยศิลปะร่วมสมัยที่มีความงดงามและเป็นเอกลักษณ์ของตนเองที่สำคัญตลาดแห่งนี้นอกจากจะขายผักและผลไม้แล้วยังมีสินค้าอื่นๆนำมาวางขายเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นงาน Handmade หรืองานศิลปะด้านอาร์ตรวมถึงถ้าหากใครชื่นชอบสินค้ามือสองก็สามารถแวะมาซื้อสินค้าที่ตลาดแห่งนี้ได้

            ปัจจุบัน Apple market กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกเนื่องจากว่าเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวที่นี่ก็จะมีการเช็คอินและอัพรูปลง Facebook ทำให้มีการเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกและเป็นสถานที่ที่อีกหนึ่งที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศอังกฤษจะไม่พลาดมาเช็คอินกันนั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย.  สูตร ยี่กีเข้าทุกรอบ

0
ตลาดกลางคืน แหล่งช้อปปิ้งอาหารและขนม ที่ไต้หวัน 

         สำหรับวันนี้เราจะพาไปแนะนำแหล่งช้อปปิ้งที่ไต้หวันแผ่นแหล่งช้อปปิ้งในช่วงเวลากลางคืนหรือที่เราเรียกกันว่า Night market นั่นเอง  แหล่งช้อปปิ้งอาหารและขนม  โดยที่ประเทศไต้หวันนั้น  มีตลาดกลางคืนมากกว่า 10 แห่งด้วยซ้ำไปซึ่งแต่ละที่นั้นก็เป็นสถานที่ฮิตๆที่มีทั้งคนจากต่างประเทศที่เดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไต้หวันพากันไปช้อปปิ้งและยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งของคนไต้หวันเองอีกด้วย

         ตลาดแรกที่จะพาไปรู้จักนั่นก็คือ  ตลาดกลางคืนเหราเหอ  ซึ่งตลาดแห่งนี้จะอยู่ที่เมืองไทเปและยังเป็นตลาดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นตลาดไนท์มาเก็ตที่เก่าแก่ที่สุดของไทเปเลยก็ว่าได้  โดยลักษณะของตลาดแห่งนี้นั้นจะมีบรรยากาศเหมือนกับตลาดของไต้หวันในสมัยโบราณคือไม่มีการเปลี่ยนแปลงโดยตลาดแห่งนี้ถ้านักท่องเที่ยวจะไปช้อปปิ้งนั้นจะต้องเดินไปตรงบริเวณถนนเหราเหอ   โดยตลาดแห่งนี้นั้นจะเป็นตลาดให้นักท่องเที่ยวได้ Shopping พวกขนมและอาหารจะเป็นส่วนใหญ่ซึ่งจะถูกตั้งแผงลอยขายเอาไว้ต่อสองข้างทางนั่นเอง

           ส่วนตลาดที่ 2 ซึ่งเป็นตลาดที่เน้นให้นักท่องเที่ยวไปช้อปปิ้งอาหารและขนมเช่นเดียวกันนั่นก็คือตลาดกลางคืนซื่อหลิน  ซึ่งตลาดแห่งนี้ก็อยู่ในเมืองไทเปเช่นเดียวกันเรียกได้ว่าตลาดแห่งนี้เป็นตลาดที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของเมืองไทเปเลยก็ว่าได้   สำหรับตลาดแห่งนี้นั้นจะมีการแบ่งออกเป็น 2 ส่วนซึ่งส่วนแรกนั้นจะเป็นโซนของตลาดเก่าดังนั้นตรงบริเวณนี้จะมีอาคารเก่าแก่นำสินค้ามาวางขาย

ซึ่งจะมีทั้งขนมและอาหารมากมายเต็มไปหมดเรียกได้ว่าแค่คนนี้คนเดียวก็มีร้านอาหารมากกว่า 500 ล้านแล้วนอกจากนี้ถ้าหากใครไปโซนตลาดใหม่จะเป็นการนำอาหารท้องถิ่นมาขายซึ่งตัวนี้จะถูกเรียกว่าเป็น Street food สไตล์ไต้หวันนั่นเอง 

        ส่วนตลาดสุดท้ายที่จะแนะนำ ไปshopping กันก็คือ ตลาดการคืน หัวซี หรือที่ชาวไต้หวันเรียกกันว่าตรอกงู   สำหรับตลาดแห่งนี้นั้นเป็นตลาดที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปีค.ศ 1951   เรียกได้ว่าเป็นตลาดในยุคแรกๆของประเทศไต้หวันเลยก็ได้ซึ่งตลาดแห่งนี้อยู่ในเมืองไทเปเช่นเดียวกันและตลาดแห่งนี้นั้นจะมีของมาวางขายเหมือนกับตลาดนัดของประเทศไทยนั่นเองซึ่งตลาดแห่งนี้ถ้าหากนักท่องเที่ยวอยากจะไปช้อปปิ้งแล้วก็คุณสามารถเดินทางไปได้โดยตลาดแห่งนี้จะอยู่ใกล้กับวัดหลงซานนั่นเอง 

    และ 3 ตลาดนี้เป็นตลาดที่ค่อนข้างเก่าแก่และเป็นตลาดที่อยู่คู่กับเมืองไทเปมานานหลายสิบปีซึ่งตลาดทั้งสามแห่งที่นำมาแนะนำกันนี้รับรองได้ว่าอาหารอร่อยและเป็นตลาดที่ขึ้นชื่อมากๆที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่ไต้หวันจะต้องแวะมาช้อปปิ้งกันที่นี่

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    wm เครดิตฟรี 100

0
ถนน Maximilianstrasse  ช็อปมันส์ ช็อปเพลิน กลางเมืองมิวนิค ประเทศเยอรมนี 

             อย่างที่เรารู้กันดีว่าประเทศเยอรมนีนั้นเป็นประเทศแห่งการท่องเที่ยวซึ่งในแต่ละปีนั้นจะสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวมากเป็นหลักล้านคนเลยก็ว่าได้  ช็อปมันส์ ช็อปเพลิน และเมืองสำคัญสำคัญในการท่องเที่ยวหนึ่งในนั้นก็คือเมืองมิวนิคนั่นเองซึ่งที่นี่จะมีนักท่องเที่ยวจากหลายเชื้อชาติเดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองแห่งนี้กันอย่างไม่ขาดสาย

      แน่นอนว่านักท่องเที่ยวนอกจากจะ ช็อปมันส์ ช็อปเพลิน กับสถานที่ท่องเที่ยวสวยที่สวยงามแล้วล่ะก็ก่อนจะกลับประเทศของตนเองพวกเขามักจะหาสถานที่สมัครการช้อปปิ้งสินค้าเพื่อเอากลับไปเป็นของฝากหรือของที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งนั้นเธอเคยได้เดินทางมาที่ประเทศเยอรมนีและมาเที่ยวที่เมืองมิวนิคนั่นเอง

          ดังนั้นในวันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ช้อปปิ้งให้กับนักท่องเที่ยวได้เข้าไปซื้อของฝากบ้านซึ่งสถานที่ที่เราจะแนะนำกันในวันนี้นั้นเป็นถนนแห่งการช้อปปิ้งอย่างแน่นอนโดยถนนนี้มีชื่อเรียกว่า ถนน Maximilianstrasse ซึ่งถนนแห่งนี้นั้นมีความยาวแค่ประมาณกิโลกว่าๆเท่านั้นแต่ถึงแม้ว่าจะยาวไม่มากสักเท่าไหร่แต่ต้องบอกได้เลยว่าร้านค้าที่นำของมาวางขายให้กับนักช็อปได้ทำการช้อปปิ้งนั้นมีแต่สินค้าที่มีคุณภาพอย่างแน่นอน

          ซึ่งสำหรับถนนMaximilianstrasse เส้นนี้ เวลาที่นักช็อปได้กำลังเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งแล้วคุณจะยังได้สัมผัสถึงบรรยากาศและกินในความเก่าแก่ของเมืองมิวนิคอีกด้วยเรียกได้ว่าคุณจะรู้สึกว่าคุณกำลังช้อปปิ้งกลับบ้านเมืองที่มีบรรยากาศความเป็นยุโรปอย่างแท้จริงเลยทีเดียวเนื่องจากว่าบริเวณถนนเส้นนี้นั้นตลอดสองข้างทางนั้นจะเต็มไปด้วยอาคารและบ้านเรือนซึ่งชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนถนนเส้นนี้นั้นมีการอนุรักษ์เอาไว้เพื่อต้องการให้เป็นเสน่ห์เอาไว้ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่เมืองมิวนิคแล้วอยากจะมาช้อปปิ้งสินค้าด้วยบรรยากาศแบบเดิมของประเทศเยอรมนีนั่นเอง

          อย่างไรก็ตามสำหรับสินค้าที่มีการนำมาเปิดขายให้กับนักชอบทั้งหลายนั้นก็ไม่แตกต่างจากสถานที่ช้อปปิ้งที่อื่นเราก็จะเป็นสินค้าประเภทแฮนด์เมดและสินค้าแนวศิลปะอย่างเช่นรูปวาดรวมถึงสินค้าประเภทกระเป๋ารองเท้าหรือเครื่องประดับที่เป็นพวกแบรนด์ดังๆทั้งหลายแต่ความแตกต่างตากแหล่งช้อปปิ้งแหล่งอื่นนั่นก็คือบรรยากาศของถนนMaximilianstrasse แต่งนี้นั้นจะเป็นบรรยากาศสบายๆและเราสามารถช้อปปิ้งไปเพลิดเพลินกับวิวของเมืองสวยๆไปนั่นเอง  

          สินค้าที่ถูกนำมาวางขายที่นี่นั้น เป็นสินค้าประเภทคนที่ชื่นชอบแนวแฟชั่นใหม่ๆแต่ต้องถูกใจอย่างแน่นอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งประเภทเสื้อผ้ารวมถึงรองเท้าและกระเป๋าหากมีแบรนด์ดังๆออกสินค้าใหม่จะถูกนำมาวางขายภายในถนนแห่งนี้นั่นเองซึ่งแน่นอนว่าถ้าใครได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศเยอรมนีและแวะมาที่เมืองมิวนิคแล้วเราก็ไม่ควรพลาดที่จะมาช้อปปิ้งที่Maximilianstrasse เพราะที่นี่นอกจากจะได้ Shopping อย่างเพลิดเพลินแล้วคุณยังได้บรรยากาศดีๆระหว่างช่วยคุณเองอีกด้วย 

 

สนับสนุนโดย.  lovebet999

0
เทศกาลป๊อกกี้เดย์  เทศกาลช็อปปิ้งขนมป็อกกี้

            หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินชื่อ เทศกาลป๊อกกี้เดย์ กันมาก่อนเนื่องจากว่าเทศกาลนี้ไม่ใช่เทศกาลของประเทศไทยและเป็นเทศกาลที่ชาวเกาหลีใต้และชาวประเทศญี่ปุ่นนั้นให้ความสนใจกันเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในหมู่ของวัยรุ่น  โดยเทศกาลป๊อกกี้เดย์นั้นเป็นเทศกาลที่ชาวเมืองเกาหลีใต้และชาวเมืองญี่ปุ่นไม่มีการมอบความรักให้กับคนที่ตนเองรัก

           ซึ่งจะเป็นใครก็ได้ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่พี่น้องคนในครอบครัวญาติสนิทมิตรสหายหรือแม้แต่คนรักก็สามารถมอบของขวัญชิ้นนี้ให้ได้ทั้งหมดด้วยของขวัญที่มอบให้นั้นเป็นขนมป๊อกกี้  แต่ต้องมีเงื่อนไขด้วยว่าจะต้องเป็นขนมป๊อกกี้จำนวนทั้งหมด 4 แท่งด้วยกันถ้าหากมากกว่านั้นหรือน้อยกว่านั้นก็จะไม่ใช่การมอบในช่วงเทศกาลประเภทใดนั้นเองเรียกได้ว่าเป็นการมอบขนุนเพื่อเป็นการตอบแทนความรักของคนที่คุณรักนั้นเองสำหรับเทศกาลป๊อกกี้เดย์นั้นจะเป็นเทศกาลที่มีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี

             เทศกาลป๊อกกี้เดย์ โดยจะมีการจัดขึ้นในวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายนซึ่งในประเทศเกาหลีใต้นั้นจะไม่มีการใช้ขนมป๊อกกี้แต่จะใช้ขนมที่คล้ายคลึงกับขนมป๊อกกี้ด้วยขนมดังกล่าวนั้นมีชื่อเรียกว่า Pepero ลักษณะเป็นแท่งเคลือบช็อกโกแลตและเคลือบสตอเบอรี่หรือเคลือบชาเขียวเหมือนกับขนมป๊อกกี้ทุกอย่างเลยเพียงแต่ว่าชื่อนั้นคนละชื่อตันโดยขนมนี้ถูกผลิตขึ้นมาจากบริษัทนั่นเอง

            ซึ่งสำหรับประเทศเกาหลีใต้แล้วจะเรียกเทศกาลป๊อกกี้เดย์ดีว่าเทศกาล Pepero  Dayแทน   ส่วนใหญ่แล้วคนที่เข้าร่วมเทศกาลนี้ในประเทศเกาหลีใต้นั้นก็จะเป็นพวกบรรดาวัยรุ่นและเด็กๆคนหนุ่มคนสาวเขาเพราะต้องการแสดงออกถึงความรักความห่วงใยซึ่งกันและกัน 

            อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าประเทศเกาหลีใต้จะมีการเทศกาล  Pepero  day  ไปไหนสำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้วยังคงเรียกเทศกาลนี้ว่าเทศกาลป๊อกกี้เดย์นั่นเองซึ่งจะจัดตรงกับวันเดียวกับเทศกาลPepero  day นั่นก็คือวันที่ 11 เดือนพฤศจิกายนของทุกปีเรียกได้ว่าเป็นขนบธรรมเนียมที่มีการทำและปฏิบัติกันมาตั้งแต่ในสมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน  ซึ่งแน่นอนว่าเทศกาลทั้งสองเทศกาลนี้สร้างรายได้ให้กับเจ้าของธุรกิจนั้นก็คือเจ้าของบริษัทลอตเต้เป็นอย่างมากเพราะว่าจะต้องมีการซื้อขนมมาให้กันในวันเทศกาล

            ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าเทศกาลนี้เป็นเทศกาลสำหรับการช็อปปิ้งขนมป๊อกกี้และขนม Pepero   เดือนพฤศจิกายนของทุกปีเรียกได้ว่าเป็นขนบธรรมเนียมที่มีการทำและปฏิบัติกันมาตั้งแต่ในสมัยโบราณจนถึงปัจจุบันซึ่งแน่นอนว่าเทศกาลทั้งสองเทศกาลนี้สร้างรายได้ให้กับเจ้าของธุรกิจนั้นก็คือเจ้าของบริษัทลอตเต้เป็นอย่างมากเพราะว่าจะต้องมีการซื้อขนมมาให้กันในวันเทศกาลดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าเทศกาลนี้เป็นเทศกาลสำหรับการช็อปปิ้งขนมป๊อกกี้และขนม Pepero  นั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย  aecasino

0
ช้อปปิ้งผ่านระบบออนไลน์มีข้อดีอย่างไร

          ในยุคนี้ที่เป็นยุค 2021 เป็นยุคที่คนเรารู้จักการใช้งานอินเทอร์เน็ตและอินเตอร์เน็ตที่ใช้งานนั้นก็เป็นอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงในระบบเครือข่ายสัญญาณ 5g เลยทีเดียว ช้อปปิ้งผ่านระบบออนไลน์มีข้อดีอย่างไร และในขณะนี้ยังเป็นยุคที่มีการระบาดของโรคเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัสโควิด หรือแม้แต่มลพิษทางอากาศอย่าง PM 2.5 ที่ส่งผลทำให้ผู้คนนั้นไม่ค่อยอยากที่จะออกนอกบ้านกันมากนัก

         เพราะเกรงเรื่องของเชื้อโรคต่างๆเหล่านี้จะส่งผลทำให้เมื่อออกนอกบ้านแล้วต้องเป็นผจญกับเชื้อโรคพวกนี้แล้วจะทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้นั่นเองแต่อย่างไรก็ตามแต่สำหรับสาวทั้งหลายแล้วมักจะชื่นชอบการชอปปิ้งและต่อให้มีเชื้อโรครออยู่ด้านหน้าแต่การช้อปปิ้งก็ยังคงมีอยู่ในใจและเชื่อเถอะว่าถ้าหากใครที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งเป็นชีวิตจิตใจและเราก็ไม่มีอะไรที่จะมาขวางไม่ให้ช้อปปิ้งได้อย่างแน่นอน

         ดังนั้นในยุคนี้จึงเป็นยุคที่คนหวาดกลัวการออกนอกบ้านแต่ก็ยังเป็นยุคที่คนยังชื่นชอบการช้อปปิ้งกันอยู่นั่นเองซึ่งด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มีการช้อปปิ้งผ่านระบบออนไลน์เกิดขึ้นมาและในขณะนี้เรียกได้ว่าการช้อปปิ้งผ่านระบบออนไลน์นั้นเป็นการช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยทีเดียวดังนั้นเราจะมาดูกันว่าข้อดีของการที่เราซื้อของหรือเราช้อปปิ้งผ่านระบบออนไลน์นั้นมีข้อดีอย่างไรบ้าง

              ช้อปปิ้งผ่านระบบออนไลน์มีข้อดีอย่างไร ที่เราช้อปปิ้งผ่านระบบออนไลน์ที่เห็นได้เลยก็คือเมื่อเราจะซื้อของผ่านระบบออนไลน์นั้นคุณจะนั่งซื้อของเวลาไหนก็ได้ต่อให้เป็นเวลาเที่ยงคืนเที่ยงวันหรือแม้แต่เช้าตรู่อย่างหกโมงเช้า หรือตอนค่ำอย่าง หนึ่งทุ่มตรง คุณก็สามารถช้อปปิ้งได้เพราะร้านค้าผ่านระบบออนไลน์นั้นไม่มีวันปิดนั่นเอง  

        ที่สำคัญการช้อปปิ้งผ่านระบบออนไลน์นั้นเพิ่งจะแต่งตัวยังไงในการช้อปปิ้งก็ได้คุณไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าทาปากใส่รองเท้าส้นสูงเพื่อช้อปปิ้งคุณอยากจะใส่กางเกงขาสั้นหรือคุณจะใส่ชุดนอนคุณก็สามารถช้อปปิ้งได้อย่างเพลิดเพลินและแน่นอนว่าการช้อปปิ้งผ่านระบบออนไลน์นั้นช่วยลดปัญหาในเรื่องของการหาที่จอดรถในห้างสรรพสินค้าได้มากเลยทีเดียวและยังช่วยในเรื่องของการประหยัดน้ำมันเพราะคุณไม่จำเป็นต้องขับรถออกไปถึงห้างสรรพสินค้านั่งๆนอนๆอยู่ที่บ้านคุณก็ช้อปปิ้งได้แล้ว

 

            ที่สำคัญการช้อปปิ้งผ่านระบบออนไลน์นั้นคุณไม่จำเป็นต้องพูดคุยกับพนักงานให้เสียบรรยากาศเพราะถ้าหากใครเคยไปช้อปปิ้งที่ร้านนั้นบางทีถ้าเราสอบถามพนักงานหรือเดินดูของคุณจะเห็นว่าพนักงานจะขอเดินตามคุณอยู่ตลอดเวลาซึ่งทำให้เรานั้นรู้สึกอารมณ์เสียและไม่ค่อยอยากจะ Shopping เลยทีเดียวแต่ถ้าคุณชอบระบบออนไลน์สิ่งกวนใจเหล่านี้จะไม่มีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เห็นไหมเขาว่าการช้อปปิ้งผ่านระบบออนไลน์นั้นมีข้อดีมากมายเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย.    หวยออนไลน์บาทละ 1000

0
แหล่งช้อปปิ้ง ที่กรุงเบอร์ลินประเทศเยอรมนี 

             สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเยอรมนีเชื่อว่าหลายคนนั้นคงจะชื่นชอบการช้อปปิ้งสินค้าซึ่งเป็นสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกรวมถึงอาจจะชื่นชอบการซื้อสินค้าในราคาประหยัดของประเทศเยอรมนีอย่างเช่นพวกสินค้าท้องถิ่นที่มีการนำมาขายเพื่อใช้ในการเป็นของฝากเวลาที่มีการเดินทางมาเที่ยวที่ต่างประเทศ

          ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ช้อปปิ้งซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งชื่อดังของกรุงเบอร์ลินที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายที่เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเยอรมนีไม่ควรค่าที่จะไปเดินแหล่งช้อปปิ้งเหล่านี้เพราะจะมีสินค้ามากมายถูกนำมาวางจำหน่ายทั้งในราคาย่อมเยาและในราคาสูงรวมถึงแบรนด์ดังๆระดับโลกก็มีการนำมาวางขายเช่นเดียวกัน

           สำหรับสถานที่ช้อปปิ้งแห่งแรกที่อยากจะพาไปแนะนำให้รู้จักกันในครั้งนี้เนื่องก็คือถนนช้อปปิ้งที่ชื่อว่า Kurfurstendamm  ซึ่งถนนแห่งนี้นั้นต้องบอกเลยว่าถ้าใครเป็นขาช็อปตัวจริงแล้วไม่ควรพลาดอย่างแน่นอนเพราะที่นี่ต้องบอกเลยว่าบนถนนเส้นนี้น้ำจะเต็มไปด้วยร้านค้ามากมายเต็มไปหมดเรียกได้ว่าตลอดสองข้างทางเป็นระยะทางถึง 3 กิโลเมตรด้วยกันนั้นจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยร้านค้าซึ่งเป็นร้านของแบรนด์ชั้นนำตั้งเรียงรายกันอยู่เต็มไปหมดเลยก็ว่าได้

          โดยสินค้าที่ถูกนำมาวางขายนั้นมีตั้งแต่สินค้าแบรนด์ดังระดับโลกจนถึงสินค้าที่มีราคาไม่สูงมากนักเรียกได้ว่าเมื่อคุณต้องการสินค้าแบบไหนที่ถนนแห่งนี้นั้นก็มีให้คุณเลือก Shopping ได้มากมายเต็มไปหมดโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากคุณมาช้อปปิ้งสินค้าที่ถนนแห่งนี้ในช่วงเทศกาลแล้วเราก็คุณจะได้เจอกับสินค้าเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดและยังมีโปรโมชั่นหนักหลายที่กระตุ้นความอยากให้คุณนั้นได้ Shopping กันแบบเพลินเลยก็ว่าได้

     นอกจากที่ถนน  Kurfurstendamm  แห่งนี้แล้วที่กรุงเบอร์ลินนั้นยังมีถนนช้อปปิ้งอีก 1 แห่งโดยมีชื่อว่า ถนน Friendchstrasse โดยถนนแห่งนี้นั้นอยู่บริเวณประตูบรันเดนบรุกส์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งหนึ่ง ของประเทศเนเธอร์แลนด์เลยก็ว่าได้ โดยที่ถนนแห่งนี้นั้นก็มีสินค้าที่เป็นสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกนำมาวางขายเช่นเดียวกัน

          นอกจากนี้ถ้าหากใครอยากจะซื้อสินค้าประเภทแฮนด์เมดหรือสินค้าประเภทสตรีทแบรนด์ แล้วล่ะก็ที่นี่ก็มีการนำสินค้าเหล่านี้มาวางขายเหมือนกันโดยเรียกได้ว่าถนนFriendchstrasseแห่งนี้นั้นมีสินค้าเกือบทุกประเภทที่คุณต้องการซื้อเลยทีเดียวนอกจากนี้บริเวณนี้ยังมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆมากมายเต็มไปหมดให้นักท่องเที่ยวเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้ง และเมื่อช็อปจนจุใจแล้วก็สามารถนั่งชิลๆในห้างเพื่อหาของกินให้หายเหนื่อยได้อีกด้วย 

         

 

สนับสนุนโดย    แจกสูตรหวยยี่กี

0
วังหลัง แหล่งช็อปปิ้งสินค้าราคาถูก ทั้งเสื้อผ้าและขนม 

           สำหรับใครที่เป็นนักช้อปปิ้งตัวยงโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งอาหารอร่อยๆและขนมอร่อยๆแถมยังราคาถูกแล้วแล้วก็เชื่อว่าจะต้องรู้จักตลาดวังหลังกันเป็นอย่างดีซึ่งตลาดแห่งนี้นั้นเป็นตลาดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงพยาบาลศิริราชและเปิดให้บริการให้ขาช้อปทั้งหลายได้มีการไปช้อปปิ้งที่นี่ได้ตั้งแต่ 10:00 น จนถึง 18:00 น.

           โดย ตลาดแห่งนี้จะเปิดให้บริการทุกวันแต่ถ้าใครที่ต้องการที่จะมาช้อปปิ้งแล้วมีสินค้าให้เลือกเยอะแล้วเราก็คุณควรจะต้องมาช้อปปิ้งสินค้าที่ตลาดวังหลังนี้ในวันธรรมดาเพราะถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์นั้นจะมีของมาขายไม่ค่อยเยอะเท่ากับวันธรรมดานั่นเอง 

         แน่นอนว่าหลายคนอาจจะมองว่าที่ตลาดวังหลังนั้นจะแตกต่างจากตลาดที่อื่นเพราะโดยส่วนใหญ่แล้วตลาดส่วนมากนั้นมักจะมีของมาขายเยอะในช่วงเวลาเสาร์อาทิตย์แต่สำหรับตลาดวังหลังนั้นจะเน้นการขายของเยอะมากในช่วงวันธรรมดานั่นก็เพราะว่าในช่วงวันธรรมดานั้นมักจะมีคนเดินทางมารักษาอาการบาดเจ็บ หรือมาเยี่ยมญาติกันเยอะ

           ดังนั้นทางร้านค้าจึงมีนำสินค้ามาขายที่ตลาดวังหลังค่อนข้างเยอะส่วนวันเสาร์อาทิตย์นั้นคนส่วนใหญ่ก็จะไปช้อปปิ้งที่ตลาดอื่นๆจึงทำให้ตลาดวังหลังนั้นค่อนข้างมีคนเดินน้อยดังนั้นเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายจึงนำสินค้ามาวางขายในวันธรรมดาส่วนวันเสาร์อาทิตย์นั้นก็นำสินค้าของตนเองไปขายที่ตลาดอื่นๆเพิ่มเติมนั่นเอง

          และที่ตลาดวังหลังนี้คุณจะได้พบกับทั้งเสื้อผ้าซึ่งเป็นสินค้าราคาถูกแต่มีคุณภาพรวมถึงอาหารเลิศรสต่างๆซึ่งจะมีมาให้ชิมหลากหลายและยังมีการนำผลไม้มาขายในราคาที่ถูกขนมต่างๆซึ่งมีทั้งขนมที่ผลิตในประเทศไทยและมีจากขนมต่างประเทศมาวางขายอีกด้วยนอกจากนี้ยังมีพวกเครื่องประดับของตกแต่งบ้านหรือแม้แต่รองเท้าก็ถูกนำมาวางขายที่ตลาดวังหลังแห่งนี้เรียกได้ว่าถ้าคุณมาเดินที่ตลาดวังหลังแห่งนี้แล้วก็คุณอยากซื้อสินค้าประเภทไหนคุณก็จะได้สินค้าประเภทนั้นมีการวางขายที่ตลาดแห่งนี้อย่างแน่นอน

       และที่สำคัญขนมที่ตลาดวังหลังแห่งนี้เป็นขนมที่ค่อนข้างขึ้นชื่อมากมีขนมหลายอย่างที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่ถึงแม้ว่าคุณจะอยู่พื้นที่ห่างไกลแต่ก็อยากจะมีโอกาสได้ชิมขนมที่ขายที่ตลาดวังหลังแห่งนี้ สำหรับการเดินทางมานั้น มาได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัว หรือจะนั่งรถเมล์ รวมถึงนั่งเรือโดยสารมาก็ได้  ดังนั้น หากใครที่กำลังมองหาตลาดที่เดินทางสะดวกและมีของขายเยอะแนะนำมาช้อปปิ้งที่ตลาดวังหลังกันดูนะคะ

 

สนับสนุนโดย  ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ ระบบออโต้

0
สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปเมื่อเรานั้นได้ไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นนั้นได้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามนั้น อยู่หลากหลายสถานที่และในแต่ล่ะสถานที่ที่น่าไปท่องเที่ยวไปในประเทศญี่ปุ่นนั้น ได้มีที่น่าไปอยู่มาก ซึ่งในการที่เรานั้นได้มีการทำการไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นนั้น ให้เราได้มีการท่องเที่ยวถ่ายรูปที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้เรานั้นได้มีการถ่ายรูปได้อย่างมากความสวยงามอีกด้วย ซึ่งในสถานที่ที่ต้องไปท่องเที่ยวให้ได้เมื่อเรานั้น ได้มีการทำการไปท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นก็คือ

  1. ห้าแยกชิบุยะ (Shibuya Crossing)

เป็นถนนที่อยู่ในโตเกียวแห่งหนึ่งที่มีมุมที่สวยงามอย่างมาก และเป็นสถานที่ที่มีแลดน์มาร์ก ที่เหมาะกับการช็อปปิ้งในโตเกียวเป็นอย่างมาก และนอกจากนี้นั้นยังมีสถานที่ที่มีรูปปั้นสุนัขฮาจิโกะที่มีในเรานั้น ทำการถ่ายรูปได้อยู่ตรงแถวหน้าสถานีรถไฟอีกด้วย

  1. วัดทองคินคาคุจิ (Kinkakuli)

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นวัดที่มีความความสวยงามของวัดเป็นอย่างมาก ซึ่งได้มีการทำการตั้งอยู่ในเมืองโตเกียว ซึ่งเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ที่มีความสวยงามของสถานที่ต่างๆ เช่น เมืองและวัด ซึ่งในวัดแห่งนี้นั้นได้เป็นสถานที่ที่มีความสวยงามอยู่มาก ซึ่งเป็นวัดที่มีสีทองที่มีความโดดเด่นอย่างมาก และอยู่ในที่ที่มีป่าไม้นั้นล้อมรอบเอาไว้ และมีน้ำที่อยู่ด้านล่างของวัด ซึ่งทำให้วัดแห่งนี้นั้นได้มีความโดดเด่นอย่างมาก และในตอนที่เป็นฤดูใบไม้ร่วงนั้นจะยิ่งมีความสวยงามของวัดอย่างมาก เพราะในฤดูใบไม้ร่วงนั้นใบไม้จะเปลี่ยนกลายเป็นสีส้มและเหลือง ซึ่งทำให้วัดแห่งนี้นั้นได้มีความโดเด่นขึ้นไปอีกเป็นอย่างมาก

  1. ภูเขาเขาไฟฟูจิ (Mount Fuli)

เป็นภูเขาที่มีความสวยงามของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้มีบริเวณที่มีการมองวิวของภูเขาที่มีความสวยงามนั้น จะมีบริเวณที่เป็นทะเลสาบคาวากูจิโกะ ที่เป็นบริเวณที่สามารถที่จะทำการมอง และสามารถถ่ายรูปให้มีความสวยงามมากได้อีกด้วย ซึ่งเป็นจุดที่มีความนิยมในการที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นั้น จะมีการทำการมาชมวิวของภูเขาแห่งนี้นั้นเอง

  1. สวนฮิตาชิ ซีไซด์ (Hittachi Seaside Park)

เป็นสถานที่ที่มีความสวยงาม และมีความโดดดังเป็นอย่างมาก ที่เป็นทุ่งดอกไม้แห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสถานที่ที่อยู่ไม่ได้ไกลมากจากเมืองโตเกียว ซึ่งเป็นทุ่งดอกไม้ที่มีสีฟ้าอมเขียวของดอกโคเชียที่มีความสวยงามและมีความกว้างเป็นอย่างมาก และนอกจากนี้นั้นดอกโคเชีย ยี้นั้นยังสามารถที่จะมีการเปลี่ยนสีในตอนฤดูไม้ใบร่วงได้อีกด้วย

 

สนับสนุนโดย.    u12