0
Soceity ZEN MIND ท่วงท่า 2

มือของเรานั้นจะต้องอยู๋ในท่า มุทรา คือการนำมือซ้ายวางบนมือขวา ให้ข้อกลางของนิ้วกลางอยู่ด้วยกัน นิ้วโป้งแตะกันเบาๆ เหมือนดั่งคีบกระดาษแผ่นไว้ มือทั้งสองจะเป็นวงรีสวยงาม จะต้องทำท่ามุทรานี้ด้วยความใส่ใจอย่างยิ่ง เหมือนกับว่ากำลังถือของที่มีค่าไว้มากๆ มือวางชิดตัว นิ้วโป้งอยู่ระดับสะดือ แขนสองข้างทิ้งลงสบายๆ กางออกเล็กน้อย เหมือนกับว่ากำลังหนีบไข่ไว้ใต้แขน โดยไม่ให้แตก

ลำตัวนั้นจะต้องไม่เอียงตัวไปด้านข้าง ด้านหลังหรือด้านหน้า แต่ให้นั่งตัวตรง เหมือนกับว่าศีรษะเทินท้องฟ้าอยู่ นี่ไม่ได้เกี่ยวกับแค่ท่านั่งหรือการหายใจเท่านั้น แต่เป็นการแสดงถึงหลักสำคัญของพุทธศาสนา เป็นการแสดงถึงความเป็นพุทธะโดยธรรมชาติอย่างสมบูรณ์แบบ ถ้าต้องการเข้าใจในพุทธศาสนาอย่างแท้จริงต้องฝึกนั่งแบบนี้ ท่าเหล่านี้ไม่ได้เป็นวิธีที่จะทำให้เรามีสถานะทางจิตที่ถูกต้อง การที่อยู่ท่านี้คือจุดประสงค์ของการปฏิบัติของเราในการที่อยู่ท่านี้ เราจะอยู่ในสถานะทางจิตที่ถูกต้องอยู่แล้ว เพราะฉนั้นไม่จำเป็นต้องพยายามขวนขวายสถานะพิเศษอะไรอีก

เมื่อพยายามที่จะบรรลุบางสิ่งบางอย่าง จิตของเราจะเริ่มเพ่นพ่านไปที่อื่น แต่เมื่อเธอไม่ได้พยายามจะทำให้ตัวและจิตอยู่ตรงนี้ อย่างที่พระอาจารญ์เซนท่านหนึ่งบอกว่า จงฆ่าพระพุทธเจ้า เพราะว่าถ้ามัวแต่คิดถึงแต่พระพุทธเจ้าจะทำให้เรานั้นไม่เป็นธรรมชาติของตัวเราเอง ที่ต้องฏ่าพระพุทธเจ้าเสีย หากพระพุทธเจ้าอยู่ที่อื่น จะทำให้เรานั้นกลับเข้ามาเป็นธรรมชาตของตัวเราเอง

การทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็คือการแสดงออกถึงธรรมชาติของเราเอง เราไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งอื่นสิ่งใดทั้งสิ้น เรามีชีวิตอยู่เพื่อตัวเราเองนี่คือพื้นฐานของคำสอนที่แสดงออกในท่าต่างๆ ที่เราปฏิบัติ เช่นเดียวกับการนั่งในเชนโดหรือสำนักเซน เรามีกฎเกี่ยวกับการยืนเช่นกัน จุดประสงค์ของกฎเหล่านี้ไม่ได้เพื่อที่จะทำให้ทุกเหมือนกัน แต่เพื่อให้แต่ละคนแสดงความเป็นตัวของตัวเองอย่างอิสระ ตัวอย่างเช่น พวกเราแต่ละคนมีวิธีการยืนของตัวเอง ดังนั้นท่ายืนจึงขึ้นอยู่กับสัดส่วนของเร่างกายของแต่ละคน

 

สนับสนุนโดย  เวปเจตใหม่

0
โยโย่ ช้างป่า เกเร กระทืบไล่มอเตอร์ไซด์

คลิปวีดีโอระทึก บันทึกเหตุการณ์ช้างป่าบุกเข้ามาในหมู่บ้าน พร้อมใช้งวงเหวี่ยงรถมอเตอร์ไซด์ชาวบ้านล้มแล้วใช้เท้ากระทืบซ้ำ  คลิปวีดีโอนี้ถูกเผยแพร่เมื่อเช้าวันที่ 21 มกราคม 2563 เกิดเหตุขึ้นที่หมู่บ้านสันติสุข ตำบลสำโรงใหม่ อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ โดยภายในคลิปบันทึกเหตุการณ์ได้ว่า มีช้างป่าตัวหนึ่งกำลังใช้งวงเหวี่ยงไปที่มอเตอร์ไซด์ที่จอดอยู่ริมถนน จนมอเตอร์ไซด์พลิกคว่ำตะแคงไปมาอยู่หลายครั้ง เท่านั้นยังไม่พอมันยังใช้เท้าเหยียบกระทืบไปที่ตัวรถด้วย ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อยู่ตรงนั้น

พยายามส่งเสียงตะโกนบอกให้ช้างป่าตัวนั้นหยุดมันก็ไม่หยุด ตะโกนไล่ให้มันเข้าป่าไปมันก็ไม่ไป จนกระทั่งมีชาวบ้านคนหนึ่งตะโกนเรียกชื่อออกไปว่า โยโย่หยุด  , โยโย่ไปกลับเข้าป่าไป  เท่านั้นแหละมันหยุดกึกเลย จากที่กำลังจะยกเท้ากระทืบรถมอเตอร์ไซด์ต่อ  มันก็เอาเท้าวางลงกลับพื้น แล้วมันก็มีท่าอ่อนลงไม่ก้าวร้าวเหมือนตอนแรกที่เห็น สงสัยมันจะได้สติ จากนั้นก็เดินกลับเข้าป่าไป โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตาพระยาคอยดูแล

สอบถามข้อมูลจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกนั้น ทำให้รู้ว่า ช้างป่าที่เห็นในคลิป เป็นช้างป่าเพศผู้ มันมีชื่อที่ชาวบ้านตั้งให้และเรียกกันจดติดปากว่า โยโย่ มาตลอด ซึ่งเจ้าช้างโยโย่ตัวนี้จะออกมาจากป่าเข้ามาหากินพืชผักผลไม้ในสวนของชาวบ้านอยู่เป็นประจำ และก็ไม่เคยแสดงอาการเกรียวกราดทำลายข้าวของแบบนี้มาก่อน  ไม่รู้ว่ารอบนี้มันเป็นอะไร ถึงได้อาละวาดกระทืบรถมอเตอร์ไซด์ที่จอดอยู่ขนาดนี้ ดีนะที่มันไม่ทำร้ายร่างกายใครบาดเจ็บ

ใครที่ไม่รู้จักช้าง เราจะมาอธิบายคร่าวๆให้ฟังว่า ช้าง เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดหนึ่ง  มีขนาดลำตัวที่ใหญ่โตกว่าสัตว์สี่เท้าทั่วๆไป จมูกมีความยาวมาก เรียกว่า งวง และมีเขี้ยวที่ใต้งวง ที่เราเรียกว่า งา  มีหางเล็กๆยาวๆ กินพืชไร่พืชสวนเป็นอาหาร มีความเฉลียวฉลาด ชอบอยู่รวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่หรือโขลง  เรายกย่องให้ช้างเป็นสัตว์ประจำชาติและเป็นสัตว์มงคลคู่บ้านคู่เมืองของคนไทยมายาวนาน จากอดีตสู่ปัจจุบันตามพระราชประเพณีสำคัญต่างๆของไทยเราจะมีช้างเป็นส่วนหนึ่งในงานพิธีอยู่เสมอ

จากที่มีข่าวช้างป่ามักจะออกจากป่ามาหากินพืชสวนพืชไร่ของชาวบ้าน ก็น่าจะมาจากตอนนี้ป่าไม้ในเมืองไทยเราเหลือน้อยทั้งยังแห้งแล้ง พวกมันหาอาหารในป่ากินไม่อิ่มจึงต้องออกมาขโมยของชาวบ้านกิน เพราะฉะนั้นอยากฝากวอนคนไทยเราทุกคนว่าให้ช่วยกันดูแลอย่าตัดไม้ทำลายป่าและช่วยกันพื้นฟูป่าให้กลับมาเขียวขจีเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

 

สนับสนุนโดย  rb88 ฟรี 300

0
จับแก๊งรับจ้างอุ้มบุญในไทย

จับแก๊งรับจ้างอุ้มบุญในไทย คลอดเด็กแล้วส่งต่อไปประเทศจีนคาดนำไปขายอวัยวะ

    เมื่อวานนี้มีรายงานข่าวเข้ามาจากสำนักข่าวไทยว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าบุกค้นบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ในเขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวถือว่าเป็นหรูกลางกรุงเลยก็ว่าได้ แต่มีเหตุให้ต้องสงสัยในการตรวจค้นเนื่องจากมีคนแจ้งเข้ามาว่าบ้านหลังนี้มีคนอยู่หลายคนและแต่ละคนก็เป็นหญิงสาวที่กำลังตั้งครรภ์ ซึ่งทำให้สงสัยได้ว่าบ้านหลังนี้อาจจะเป็นแหล่งที่อยู่ของแก๊งรับอุ้มบุญ ซึ่งถือว่าเป็นการอุ้มบุญเถื่อนที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำ

จึงได้มีการขอกำลังบุกเข้าตรวจค้น และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบหญิงสาวทั้งหมด 7 คนอยู่ในบ้านหลังนี้พร้อมกับทารกที่เพิ่งคลอดอีก 1 คนอายุเพียงแค่ 30 วันเท่านั้นซึ่งจากการสอบถามหญิงสาวทั้ง 7 คนให้การว่าบ้านหลังนี้จะมีนายทุนเป็นคนจีนคอยให้เงินและมีนายหน้าที่เป็นคนไทยคอยประสานงานหาตัวหญิงสาวที่ต้องการรับจ้างอุ้มบุญมาทำงานให้

โดยหากคลอดลูกแล้วจะได้เงินค่าอุ้มบุญคนละสี่แสนบาท ซึ่งนายหน้าจะพาหญิงสาวที่จะมาทำงานอุ้มบุญไปทำการฝากตัวอ่อนเอาไว้ในท้องหลังจากนั้นก็จะพามาอยู่บ้านหลังดังกล่าวและคอยดูแลหญิงสาวเหล่านี้อย่างดีเพื่อให้เด็กในท้องร่างกายแข็งแรงออกมาครบ 32 ประการ และจะพาไปคลอดที่โรงพยาบาลในไทยและในประเทศจีน ซึ่งหากคลอดแล้วก็จะมีการจัดส่งเด็กทารกไปที่จีนและรออยู่ที่นั่นประมาณ 1 เดือนก็จะสามารถเดินทางกลับมาไทยได้ และก็ทำการรอเตรียมความพร้อมของร่างกายตั้งท้องครั้งต่อไป

ซึ่งขบวนการอุ้มบุญเถื่อนในครั้งนี้มีการทำกันมานานแล้ว และจากการสอบสวนพบว่ามีคุณแม่ที่ทำการอุ้มบุญเกือบร้อยคนทั่วประเทศ และที่สำคัญมีเด็กที่คลอดแล้วและส่งออกไปประเทศจีนแบบผิดกฎหมายมาแล้วกว่า 50 คน และเด็กที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่ายังอยู่ที่บ้านนั้น ยังส่งตัวไปจีนไมได้เพราะช่วงนี้ทางการจีนเข้มงวดเรืองคนเข้าเมืองเพราะปัญหาไวรัสโคโรน่า

จึงยังไม่ได้ส่งเด็กไปแล้วก็มาถูกจับเสียก่อน ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิฐานว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าอวัยวะมนุษย์ที่กำลังตามสืบกันอยู่ในขณะนี้ โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพื่อหาข้อมูลที่จะเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์และการขายอวัยวะของมนุษย์อยู่ โดยครั้งนี้สามารถจับผู้ร่วมขบวนการได้ทั้งสิ้นจำนวน 9 คนแบ่งเป็นคนจีน 2 คนและคนไทย 7 คน

 

สนับสนุนโดย  รหัสคูปอง rb88

0
ควรช้อปปิ้งในช่วงที่เศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง

เศรษฐกิจเช่นนี้ถือว่าเข้าสู่ช่วงวิกิตเอาเสียมากเลย ดังนั้นหากท่านใดที่มีความต้องการที่จะช้อปปิ้งก็ควรที่จะต้องระมัดระวังเอาไว้ให้ดีๆ เนื่องจากเศรษฐกิจตอนนี้ของบ้านเมืองเรายังไม่พ้นวิกิตที่อันตราย แถมยังน่ากลัวว่าจะแย่ลงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการวางแผนเผื่ออนาคตไว้จึงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

สิ่งที่ไม่ควรที่จะทำใช่ช่วงนี้นั้นก็คือการช้อปปิ้งแบบทิ้งขว้าง เพราะหากคุณนั้นเป็นบุคคลที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งมาก แต่คุณเองก็ต้องยอมรับนะว่าการช้อปปิ้งนั้นล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น เพราะเศรษฐกิจยังแย่อยู่หากคุณนั้นช้อปปิ้งจนหมดแล้วอยู่มาวันหนึ่งทาง บริษัทหรือออฟฟิศของคุณไล่คุณออกนั้นเท่ากับว่าอนาคตของคุณก็มืดดับลงในทันที

ดังนั้นหากเศรษฐกิจยังดูเหมือนว่ามันจะยังไม่ดีขึ้นก็ควรเซฟเงินจำนวนเหล่านี้ไว้ดีกว่า เพราะเราไม่รู้เลยว่ามันจะดีขึ้นเมื่อไหร่ หรือไวรัสที่ระบาดอยู๋ในขณะนี้จะหายขาดไปเมื่อไหร่ ดังนั้นการที่เราเตรียมการไว้ล่วงหน้าย่อมดีกว่า

คุณคงเห็นได้จากข่าวสาร หรือสื่อต่างๆแทบจะทุกวันที่มีคนฆ่าตัวตายเพราะเจอกับเศรษฐกิจเช่นนี้ บางรายรวยถึงขนาดเป็นเจ้าของกิจการยังล้มระลายได้เลย ดังนั้นหากเรายังไม่มั่นคงก็ควรที่จะเซฟเงินของตนเองเพื่ออนาคตไว้จะดีที่สุด

เพราะอาจจะเป็นอย่างที่เราเห็นในข่าวนะ อันที่จริงแล้วคนส่วนใหญ่ที่เงินไม่พอใช้ก็เพราะพวกเขาไม่ยอมเก็บเงินเอาไว้เผื่อมีปัญหาในอนาคตอย่างนี้ พอถึงเวลาคับขันพวกเขาจึงมีปัญหาที่หนักเกินไป การวางแผนการใช้เงินในอนาคตสำคัญที่สุดนะ

หากคุณช้อปปิ้งไม่ดูกำลังเงินของคุณเองคุณนั้นแหละที่จะเดือดร้อนเอง เพราะการวางแผนที่ไม่ดูรายรับของตนเอง การซื้อรถ ซื้อบ้าน รายจ่ายอื่นๆที่เต็มไปหมด หากวันหนึ่งที่รายได้ไม่คงที่หรือลดลง หากไม่มีเงินสำรองก็จะทำให้คุณประสบกับปัญหาอย่างที่เป็นข่าว

เพราะมีทั้งตายแบบหนีไปคนเดียว หรือชวนกันตาย บางรายก็พากันฆ่าตัวตายยกครอบครัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการตอบโจทย์ความประหม่าในการเก็บเงินและใช้ชีวิตของพวกเขาได้เป็นอย่างดี  ดังนั้นวันนี้เราจึงออกมาเตือนสำหรับสาวๆหรือบุคคลที่ชื่นชอบเรื่องช้อปปิ้ง ไม่ว่าจะซื้ออะไรที่มั่วๆก็ตามล้วนแล้วแต่พึงระวังอย่าเผลอจนทำให้ตนเองต้องเดือดร้อนในอนาคตนะ เพราะคุณอาจจะไม่ได้เดือดร้อนเพียงคนเดียว แต่อาจจะเดือดร้อนไปจึงถึงบุคคลที่อยู่รอบข้างของคุณไปด้วยนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนัน ต่างประเทศ

0
คนงานถึงกับช็อคเพราะขับรถแบคโฮดันไปทับตะโขงกินคน

ได้เกิดขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซียซึ่งมีกลุ่มคนงานรุมหนึ่งที่ได้เดินทางเข้าไปในป่าพร้อมกับนำรถรถแบคโฮไปด้วยเพื่อที่จะได้ทำการเคลียร์พื้นที่เพื่อที่จะสร้างตึกใหม่หลังจากนั้นเมื่อตัดหญ้าตัดต้นไม้แถวนั้นเสร็จก็ทำการนำรถรถแบคโฮมาหัดวนไปเรื่อยๆหลังจากนั้นอยู่ๆรถแบคโฮของคนงานก็หยุดเองเหมือนกับว่ามีอะไร

ไปติดอยู่ทางคนขับที่กำลังขับรถแบคโฮอยู่นั้นก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงสั่งให้ คนงานทุกคนช่วย พากันดูให้หน่อยหลังจากนั้นก็พบกับจระเข้ยักษ์ตัวหนึ่งซึ่งมีตัวสีออกทองสวยมากเลยค่ะ ซึ้งมีลำตัวยาวมากถึงประมาณ 4 เมตร เลยทีเดียว

ซึ่งเสียชีวิตแล้วเนื่องจากถูกรถแบคโฮของคนงานทับจนเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนรวมถึงชาว บ้านพากันถามกันไปมาว่าจระเข้ตัวนี้คือจระเข้สายพันธุ์อะไรซึ่งก็ไม่มีใครรู้เลยจึงได้ทำการโทรไปที่สำนักงานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติว่าได้พบศพของจระเข้ชนิดหนึ่งซึ่งก็ไม่รู้ว่าสายพันธุ์อะไรจึงอยากให้เข้ามาดูหน่อยว่าสายพันธ์อะไร  ซึ่งหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่เมื่อเดินทางมาถึงก็พบว่าจระเข้นี้คือสายพันธุ์ตะโขงซึ่งก็คือจระเข้ที่หาได้ยากมากในตอนนี้นอกจากนั้นตะโขงสายพันธ์นี้

กำลังใกล้ที่จะหายไปจนหมดโลกแล้ว และชาวบ้านก็ได้บอกความจริงว่า ว่าจริงๆแล้วนี่ไม่ใช่เพียงแค่ครั้ง แรกที่ได้พบกับตะโขนที่นี่ เพราะว่าจริงๆแล้วหลายเมื่อวันก่อนนี่เองได้พบกับตะโขน 2 ตัวกำลังไหว้อยู่ด้วยกันอยู่ ซึ่งทางชาวบ้านบอกว่าตอนชาวบ้านได้ไปหาปลาแล้วมันกำลังจะกินเลยลืมตัวและนำปืนไปยิงที่มันจนมันตายไปแล้ว ซึ่งก็ได้ทำไป โดยไม่ได้ตั้งใจ และนอกจากนั้นวันนี้เจ้าตะโขนตนนี้ก็ดันมาเสียชีวิตแล้ว จึงคิดว่าอาจจะหายไปหมด จากป่าบริเวณแถว ๆนี้แล้วก็เป็นได้

ซึ่งหลายๆคนกลัวมันมากเนื่องจากมันมีขนาดลำตัวที่ใหญ่มากกว่าปกติและลากคนไปกินได้เลยและเจ้าหน้าที่ก็ได้สัญญาว่าเมื่อหาเจ้าตะโขง อีกตัวเจอถ้าเกิดว่ามันยังไม่ตายก็จะทำการ ดูแลอย่างดีที่สุด  และไม่ให้มันออกมาจากกรงเพื่อมาทำร้ายคนอื่นได้อีกค่ะ ซึ้งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการบอกกับชาวบ้านไว้ว่าหากมีใครเจอตะโขงอีกรอบหนึ่งให้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ทางเจ้าหน้าที่

จะจับมันไปไว้ในกรงเองอย่าทำร้ายมาเนื่องจากมันใกล้จะหายไปจนหมดโลกแล้ว เส้นทางชาวบ้านก็ได้ทำการสัญญากับเจ้าหน้าที่ว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงการฆ่าสัตว์เหล่านี้ถ้าเกิดว่าเจอแต่ถ้ามันถึงเวลาจริงๆอย่างเช่นมันกำลังจะดึงคนไปกินแล้วก็จำเป็นที่จะต้องยิงจริงๆ

 

สนับสนุนโดย  sagame1688

0
คนเรามักมองคนแค่เปลือกนอก

          ในสังคมปัจจุบันคนเราบางครั้งก็มองคนแค่เพียงเปลือกนอกเท่านั้นอย่างกรณีที่หญิงสาวคนหนึ่งได้มีการโทรเข้ามาพูดคุยกับทางดีเจในรายการวิทยุ รายการ 1 ซึ่งได้มีการบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของเธอเบอร์คนที่โทรเข้ามาเป็นหญิงสาวอายุวัยแค่เพียง 20 ปีเท่านั้นเธอบอกกับดีเจว่าเธอมีแฟนอยู่คนนึงซึ่งอายุ 50 กว่าแต่ด้วยการดูแลรูปร่างของฝ่ายชายให้ฝ่ายชายยังมีรูปร่างหน้าตาดีซึ่งหญิงสาววัย 20 ปี

ได้แล้วว่าตลอดระยะเวลาที่คบหากันมามากกว่า 1 ปีนั้นเธอเองมักจะปิดใบหน้าของตนเองให้ฝ่ายชายได้เห็นหน้าสดของเธอเพราะเธอมีใบหน้าที่ไม่สวยและยังมีสิวขึ้นเต็มหน้าดังนั้นไม่ว่าจะเป็นช่วงที่ออกไปนอกบ้านหรือแม้แต่ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันในห้องทั้งตอนนอนและตอนตื่นเธอจึงต้องมีการแต่งหน้าแบบเต็มจึงทำให้เห็นเขาคงผิวเดิมของเธอเลยแต่อยู่มาวันหนึ่งในช่วงที่มีการระบาดของไวรัสโคโรน่าเธอ

และแฟนจำเป็นต้องกินข้าวอยู่แต่ในห้องทำให้มีอยู่วันนึงแฟนของเธอเดินทางกลับมากินข้าวที่ห้องโดยที่ไม่บอกเธอล่วงหน้าเมื่อเขาเปิดประตูเข้ามาแล้วเห็นใบหน้าสดของเธอเขาทำท่าตกไปและเดินออกจากห้องไปซึ่งสร้างความเสียใจให้กับเธอมากแต่อย่างไรก็ดีเมื่อออกจากห้องไปได้สักพักนึงแฟนของเธอก็โทรกลับมาบอกแต่ว่าจะออกไปทำธุระแล้วเดี๋ยวจะกลับเข้าห้องอีกครั้ง

แต่เธอกลับพบว่าหลังจากที่แฟนหนุ่มของเธอได้เห็นหน้าสดของเธอแล้วเขาก็มีอาการเปลี่ยนไปทันทีซึ่งปกติแล้วเวลาที่อยู่ด้วยกันสองคนมักจะสวีทหวานแหววกันมากแต่หลังจากที่เห็นหน้าสดขนมของเธออยู่ใกล้กันกับเธอและมักจะบอกเธอว่าให้เธอดูแลรักษาหน้าให้ดีซึ่งทำให้เธอรู้สึกว่าแฟนหนุ่มของเธอนั้นมองเธอแค่เปลือกนอกโดยดีเจในรายการวิทยุตังค์ก็ให้กำลังใจเธอและแนะนำเธอเกี่ยวกับเรื่องของการดูแลรูปร่างหน้าตาตนเองพร้อมทั้งแนะนำให้เธอพยายามค่อยๆแสดงหน้าที่ให้กับแฟนได้เห็นไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าอยู่ตลอดเวลาซึ่งถ้าหากแฟนของเธอไม่สามารถอัพหน้าตาของเธอได้เธอก็ควรที่เลือกเลิกกับแฟนไปดีกว่า

เพราะคนเราไม่สามารถที่จะแต่งหน้าอยู่ด้วยกันได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันแน่นอนแล้วถ้าเกิดว่าฝ่ายชายต้องการเห็นแค่เรื่องสวยๆงามๆต้องคิดรู้ว่าแก่ตัวไปเขาไม่ได้รูปร่างหน้าตาดีเหมือนเดิมในอนาคตแฟนของเธอก็จะเลิกกับเธอได้ดังนั้นเธอควรเป็นฝ่ายเลือกผู้ชายที่จะเข้ามาในชีวิตโดยมองหาคนที่คบกับเธอเพราะนิสัยใจคอมากกว่าที่จะเป็นที่รูปร่างหน้าตาจะดีที่สุด

 

 

สนับสนุนโดย  bk8 คาสิโน